16 ตุลาคม 2554

ความดุเดือดของ Social Media

ความดุเดือดของ Social Media
ภาพจาก inspir-ion.com


ในช่วงสัปดาห์แห่งการลุ้นระทึกของสภาวะน้ำท่วม Social Media มีบทบาทอย่างมากในการรายงานข่าวการอพยพของผู้ประสบภัย การช่วยเหลือผู้เดือดร้อน และการเตรียมตัวของคนที่กำลังจะประสบภัย ข้อความที่ส่งผ่าน Facebook และ Twitter มีภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวแนบมาด้วย ยิ่งทำให้เราสามารถเกาะติดสถานการณ์ต่างๆได้เร็วมากกว่าการรายงานข่าวผ่านโทรทัศน์เสียอีก



การ Retweet การ Share และการกด Like ทำได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส และในความรวดเร็วนี้ก็ก่อให้เกิดกระแสรักเร็ว เกลียดเร็วได้โดยไม่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ

เริ่มจากชาว Social Network ที่ระดมความช่วยเหลือโดยเสนอตัวเป็นศูนย์รวบรวมสิ่งของ เงินบริจาค และจัดหาเครื่องใช้สำคัญเช่น เรือ เสื้อชูชีพ รวมทั้งลงพื้นที่ด้วย โดย @UnseenPattaya @aunonline @Tar_kotloh เป็นต้น ทำให้สามารถรวบรวมเงินบริจาคและสิ่งของได้อย่างรวดเร็ว มีคนจำนวนมากตามไปช่วยแพ็คของ จัดถุงยังชีพ และร่วมกันจัดส่งไปยังผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างรวดเร็ว

การรายงานข่าวจากท้องถิ่นโดยผู้ประสบภัยในจังหวัดนครสวรรค์ โดย @ifew @gnret @sawanlunla หรือแม้แต่ผู้สื่อข่าว @noppatjak ซึ่งอยู่ในพื้นที่ประสบภัยด้วยทำให้ผู้ติดตามได้เห็นภาพบรรยากาศที่น่าเป็นห่วง ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยกันส่งกำลังใจ และน้ำใจไปช่วยเหลือคนในพื้นที่ได้อย่างถูกต้องตามความต้องการเร่งด่วน และสามารถติดตามวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆในพื้นที่นั้นมาปรับใช้กับพื้นที่อื่นที่กำลังประสบภัยหรือกำลังจะประสบภัยได้อย่างไม่ต้องลองผิดลองถูกอีกด้วย

เมื่อคุณตันเสนอพื้นที่สนาม Arena 10 ให้เป็นที่ร่วมกันจัดถุงยังชีพในเช้าวันเสาร์ คนที่ติดตามคุณตันทาง Social Media ก็แห่กันไปช่วยจนทำให้ซ.ทองหล่อรถติดตั้งแต่เช้า เพราะต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกัน หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อได้รับรายงานข่าวว่าคุณตันติดอยู่ในโรงงานที่สร้างใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมที่กำลังถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ก็มีคนส่งกำลังใจมาอย่างล้นหลามขนาดถึงกับ tweet ให้ร่วมกันอุดหนุนสินค้าของคุณตันเพื่อเป็นการสนับสนุนการทำดีของคุณตัน

ข่าวที่ศปภ.ส่งออกมาผ่านสื่อต่างๆให้เร่งอพยพชาวบ้านจากพื้นที่เสี่ยงภัยจนเกิดความชุลมุนวุ่นวายนั้นก็ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 30 นาที ทำให้ผู้คนสับสนอลหม่านได้อย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่สื่อ Social Media ก็คงไม่แตกตื่นรวดเร็วกันขนาดนี้

จะเห็นได้ว่าข่าวร้ายมักไปเร็วกว่าข่าวดี ตัวอย่างจากมีคนถ่ายรูปป้ายเก็บเงินค่าที่จอดรถของห้างเดอะมอลล์ แล้ว post ใน Facebook เพียงชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมงข่าวและภาพดังกล่าวก็แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วพร้อมทั้ง Comment ในทางลบยาวเป็นหางว่าว เมื่อเดอะมอลล์ออกมาอธิบายว่าความจริงคืออะไรกลับไม่ค่อยได้มีการส่งต่อข่าวนั้นเท่าไรนัก

Social Media นั้นเป็นสื่อที่ดุเดือดทั้งด้านบวกและด้านลบ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ องค์กรต่างๆไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนนั้นถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรก็สามารถเป็นข่าวได้ง่ายมาก ดังนั้นอยู่ที่ท่านแล้วว่าจะวางตัวอย่างไร?

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 ตุลาคม 2554 เวลา 19:25

    มีผลทั้งบวกและลบมากมายจริงๆ!

    ตอบลบ
  2. สัจจะ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

    กรณีป้ายเก็บเงินของเดอะมอลล์ นั้น พอทราบคำอธิบาย คนที่ไม่ได้ส่งต่อ ผมว่าไม่ได้หมายความว่าจะไม่ละอายใจ และก็รู้กันในวงกว้างพอที่จะแก้ไขภาพพจน์ได้

    ในส่วนที่ดีก็คือ การตรวจสอบการทำงานของพวกนักการเมืองเราจะทำการตรวจสอบได้อย่างเร็วและทำให้พวกนี้ระวังตัวมากขึ้น ซึ่งทำให้เรารู้ทันและสามารถโต้ตอบทางตรงกับนักการเมืองได้อย่างทันที

    ตอบลบ

ฉันมีความเห็นว่า...