31 ตุลาคม 2554

พ่อค้า (ต้อง) หัวใส

พ่อค้า (ต้อง) หัวใส

ในช่วงวิกฤตแห่งอุทกภัยและสารพัดภัยขณะนี้ ทำให้หลายคนตกงานฉับพลัน ขาดรายได้ทันที หลายคนยังรอความช่วยเหลือ แต่หลายคนลุกขึ้นมาหารายได้พิเศษ บางคนรับจ้างขับเรือ บางคนรับจ้างขนย้ายของ บางคนก็หาสินค้าร่วมสมัยมาขาย เช่น ทรายบรรจุถุง  อิฐบล็อก ผ้าพลาสติกคลุมรถ ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ผู้เขียนขอชื่นชมในความอุตสาหะของคนเหล่านี้ที่ไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านไปเฉยๆ ความจริงการหารายได้เสริม ที่กล่าวมาก็ไม่ต่างจากการขายกระทงในเทศกาลลอยกระทง ขายดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์ การทำธุรกิจตามเทศกาลเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากทีเดียว เห็นไหมหล่ะ อยากเป็นพ่อค้าก็ต้องหัวใส!



ขณะเดียวกันในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ต่างพากันออกมาช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งรีบ ทั้งบริจาคเงิน ทั้งทำอาหาร ทั้งลงพื้นที่ หลายแห่งผู้บริหารถึงกับลุยเองด้วยซ้ำ ไปแจกถุงยังชีพ เปิดสถานที่ให้พักพิง เช่น น้ำสิงห์ น้ำช้าง อิชิตัน ซีพี ดีเอ็มจี เป็นต้น ส่วนเอกชนรายเล็กและเหล่าดาราก็ร่วมกันทำงานจิตอาสา เช่นรวบรวมสิ่งของ เงิน ไปบริจาค รวมทั้งลงพื้นที่ไปช่วยคน สัตว์เลี้ยง และให้กำลังใจด้วย แบบนี้จะเรียกว่าการทำ CSR ก็ได้หรือจะเรียกว่าน้ำใจ ที่พึ่ง หรืออะไรก็ได้ที่เป็นความรัก ความห่วงใยสู่เพื่อนร่วมชาติ แบบนี้ก็ถือว่เป็นพ่อค้าหัวใสได้เหมือนกัน!

ที่ว่าเป็นพ่อค้าหัวใสก็คือ รู้จักจังหวะในการสร้างรายได้ และรู้จักห่วงใยเพื่อนร่วมชาติ ไม่คิดเห็นแก่ตัว รู้จักช่วยเหลือ มีน้ำใจ แบบนี้ได้ใจประชาชนกันไปเต็มๆเลยค่ะ น้ำลดเมื่อไร ผู้เขียนเชื่อว่ายอดขายของบริษัทเหล่านี้จะพุ่งขึ้นมากเลยหล่ะ เพราะในยามที่ประชาชนเดือดร้อน เขาไม่ทอดทิ้ง เขาดูแลและห่วงใยนั่นเอง

มีบริษัทจำนวนมากที่ยังจมอยู่ในน้ำตามที่เราได้เห็นจากข่าวแล้ว อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมอีเล็คทรอนิกส์ เป็นต้น ล้วนได้รับผลกระทบในระดับโลกทีเดียว แต่ก็ยังมีน้ำใจร่วมช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนอีกเช่นกัน นับถือน้ำใจจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ฉันมีความเห็นว่า...