14 ตุลาคม 2554

ลดต้นทุน...เพิ่มกำไร...ไม่เสียภาพพจน์

ล ด ต้ น ทุ น. . . เ พิ่ ม ก ำ ไ ร 

การเดินทางขึ้นเหนือเมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนพบร้านอาหารในรีสอร์ท  5 ดาว นำแก้วแถมจากเหล้ามาเสริฟน้ำดื่มให้ลูกค้า ซึ่งเป็นเรื่องที่พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย จริงอยู่ว่าการนำสิ่งของที่มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นเป็นการลดต้นทุนแบบหนึ่ง แต่ก็แสดงถึงความไม่ใส่ใจในรายละเอียดและไม่รักษาภาพลักษณ์ของรีสอร์ทระดับ 5 ดาวด้วยเช่นกัน



เป้าหมายการลดต้นทุนขององค์กรคือการเพิ่มผลกำไร อาจทำได้โดยการใช้วัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จัดขั้นตอนการทำงานให้สอดคล้องกัน หรือแม้การนำวัสดุเหลือใช้หรือที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่

การใช้วัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอาจทำได้หลายวิธี เช่น โรงงานเครื่องหนัง นำเศษหนังที่เหลือจากการทำกระเป๋ามาทำเป็นพวงกุญแจรูปต่างๆตามเศษวัสดุที่มี ร้านอาหารนำเศษผักไปทำน้ำหมัก EM เพื่อใช้ต่อหรือนำไปขาย

การจัดขั้นตอนการทำงานให้สอดคล้องกัน เช่น จากจุด A ไปจุด B, C, D ต้องทันเวลากันพอดีโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายรอนานเกินไป หรือทำงานซ้ำซ้อนกัน เช่น แผนกรับวางบิลทุกวันศุกร์ก่อนบ่าย 2 โมง
จากนั้นแผนกรับวางบิลรวบรวมบิลให้แผนกจัดทำเช็คทุกวันศุกร์ตอนเย็น วันจันทร์จัดทำเช็คพร้อมกันทั้งหมด และพร้อมให้ลูกค้ามารับเช็คได้ในวันพุธ เป็นต้น ในแต่ละส่วนก็จะทำงานเกี่ยวกับการวางบิลรับเช็คเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น ไม่ต้องทำซ้ำๆหลายครั้ง และสามารถนัดหมายให้ผู้มาติดต่อมาตรงวันได้โดยไม่เสียเวลา

ส่วนการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำกันทั่วไปอยู่แล้วเช่นการใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า เป็นต้น แต่ก็มีข้อควรระวังในการลดต้นทุนเหมือนกัน เช่น การนำกระดาษใช้แล้ว (กระดาษรีไซเคิล) มาใช้พิมพ์เอกสารที่ต้องส่งออกนอกองค์กร เช่น พิมพ์ใบเสร็จ พิมพ์จดหมาย ซึ่งทำให้ข้อมูลรั่วไหลโดยไม่ตั้งใจแล้วยังส่งผลต่อภาพพจน์ขององค์กรด้วย

การลดต้นทุนเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วในทุกองค์กร แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบด้วยว่าการเพิ่มกำไรด้วยวิธีการนั้นๆจะไม่ทำให้องค์กรเสียภาพพจน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ฉันมีความเห็นว่า...