29 กรกฎาคม 2554

ถามให้น่าตอบ

ถามอย่างไรให้น่าตอบ?

ขึ้นต้นมาซะเท่ห์เลย เรื่องของเรื่องคือวันนี้รู้สึกหงุดหงิดกับการถามคำถามในที่ประชุมมาก ถามแบบไถไปเรื่อยๆ แถไปเรื่อยๆหน่ะ

สำหรับ Danaiya Inspire ที่ทำงานหลายอย่าง และมีเวลาน้อยมากับเรื่องไร้สาระ พบว่าการสนทนาให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ากับเวลาคือการสนทนาที่สร้างสรรค์ นอกจากทำให้ใช้เวลาไปอย่างได้ประโยชน์คุ้มค่าแล้วยังได้สาระแบบไม่เสียอารมณ์อีกด้วย
ถ้างั้นอะไรคือสิ่งที่ควรถาม และอะไรคือคำถามที่น่าตอบหล่ะ

สิ่งแรกเลยคือต้องทำความเข้าใจระหว่างคู่สนทนาให้ถูกต้องตรงกันก่อน เพราะสิ่งที่คู่สนทนากำลังนำเสนออาจมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจงที่เราไม่ทราบแน่ชัด สิ่งที่ควรทำคือให้ทั้ง 2 ฝ่ายจูนความคิดให้ตรงกันก่อน เช่น โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์อะไรค่ะ หรืองานนี้ทำขึ้นมาเพื่อป้องกันปัญหาด้านไหนค่ะ เป็นต้น ไม่ควรคาดเดาเอาเองว่าเข้าใจแล้ว หรือเขาน่าจะคิดเหมือนเรา

ข้อต่อมาคือประโยคคำถามควรใช้คำพูดเชิงบวก ไม่เน้นคำพูดเชิงลบ หลีกเลี่ยงการแสดงน้ำเสียงที่ไม่สร้างสรรค์ วัตถุประสงค์ในการถามนั้นก็เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ หากต้องการแสดงความเห็นหรือให้ความรู้เพิ่มเติมก็ให้ใช้คำพูดที่เป็นเชิงบวกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณคิดว่าโครงการนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของหน่วยงานเราด้านไหนบ้างค่ะ ผมคิดว่าคุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก...น่ะครับ ผมเชื่อว่าน่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับงานชิ้นนี้มากทีเดียว

คำถามที่ควรใช้คือ 'อะไร' หรือ 'อย่างไร' เพราะทำให้ผู้ตอบมีโอกาสอธิบายสิ่งที่ต้องการนำเสนออย่างสบายใจ เป็นการให้ข้อมูลล้วนๆ แต่ถ้าการถามแบบแถไปเรื่อย ประเภททำไม แล้วไง จะทำให้ผู้ตอบคำถามตอบคำถามอย่างไม่เป็นอิสระเหมือนกับการถูกสอบสวน คำตอบที่ให้อาจเป็นเป็นแนวแก้ตัวหรือ
พยามแถไปเรื่อยๆตามคำถามก็ได้ สิ่งที่ได้คืออารมณ์เสียและไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการ ขาดความเคารพซึ่งกันและกันได้อีกด้วย

โดยสรุป การถามให้น่าตอบคือการถามที่สร้างสรรค์ ใช้คำพูดเชิงบวก จูนความเข้าใจให้ตรงกัน และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็ควรใช้คำว่าอะไรและอย่างไร

แค่นี้ก็จะได้เรื่องดีๆแล้ว และยังเป็นการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ขอให้สนุกกับการถามให้น่าตอบค่ะ

1 ความคิดเห็น:

ฉันมีความเห็นว่า...